แหล่งท่องเที่ยวอันสวยงามอีกแห่งหนึ่งของโลก จัดเป็นสถานที่อันสุดแสนมหัศจรรย์แต่ทว่ากลับแฝงไปด้วยความ ‘อันตราย’ อย่างยิ่งยวด อุทยานแห่งชาติ Yellowstone แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา
ความพิเศษของ Yellowstone เริ่มตั้งแต่ที่มัน ถูกจัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของอเมริกา และแห่งแรกของโลกพื้นที่ทั้งหมดของอุทยานแห่งนี้ ตั้งอยู่บนที่ราบสูงบนเทือกเขา Rocky ครอบคลุมมากกว่า 2 ล้านเอเคอร์ หรือประมาณ 43,750 ตารางไมล์ ภายในอุดมไปด้วยมีบ่อน้ำร้อน , น้ำพุร้อนมากกว่า 10,000 แห่ง และอีก 250 แห่งเป็นบ่อน้ำพุร้อน อีกทั้งยังเป็นบ้านของสัตว์ป่าอันน่าสนใจมากมาย เช่น Grizzy Bear , Black Bear , ควายป่าไบซัน , กวางMoose , กวาง Rocky Mountain Elk , แพะภูเขา Bighorn , แมวป่า Lynx เป็นต้น นี่ยังไม่รวมถึงนกชนิดนานาพันธ์ อีกมากกว่า 250 ชนิด
อุทยานแห่งชาติ Yellowstone มีอายุมากกว่า 600,000 ปี เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งทิ้งร่องรอยปรากฏอย่างเด่นชัด จนก่อเกิดเป็นภูเขาขนาดสูง , ที่รวบรวมทั้งหุบเหวอันสวยงามจนยากจะมีแห่งไหนเหมือน โดยพื้นราบส่วนใหญ่ของอุทยาน มีความกว้างมากกว่า 80 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีความสูงอยู่เหนือระดับน้ำทะเลเฉลี่ยประมาณ 7,000 ฟุต ส่วนจุดต่ำสุด คือ 5,300 ฟุต
การเดินทางเข้าไปชม ตามปกติแล้วหน่วยงานประจำอุทยาน จะแจกเอกสาร , แผนที่ , รวมทั้งคำเตือนต่าง ๆ ในการเข้าไปชมในช่วงฤดูหนาว เพราะภายในอาณาเขต เต็มไปด้วยหลุม , หุบเหว และอาณาเขตซึ่งยังไม่ได้สำรวจ จากอากาศอันหนาวจัดบวกกับหิมะตกหนักอาจส่งผลอันตรายต่อนักเที่ยวได้ เท่านั้นยังไม่พอจากการที่อากาศแปรปรวนบ่อย ๆ อาจทำให้นักท่องเที่ยวหลงทาง ติดหิมะ ส่งผลให้เป็นอันตรายถึงชีวิต ทำให้ผู้เข้าไปจำต้องระวังตัวและเตรียมพร้อมอย่างดี ต้องเช็คข่าวจากหน่วยงานพยากรณ์อากาศ รวมทั้งงัดทักษะในการเอาตัวรอด รวมทั้งห้ามประมาทโดยเด็ดขาด !!
โดยสีสันอันน่าแปลกตา ซึ่งเกิดขึ้นตามขอบบ่อน้ำร้อน เกิดจากสีของแบคทีเรีย ส่วนที่ไม่อยากให้คุณพลาดคือน้ำพุ Old Faithful Geyser ซึ่งตั้งอยู่ห่างลงไปทางใต้ 13 กิโลเมตร น้ำพุร้อนแห่งนี้สามารถพุ่งสูงกว่า 100 ฟุต บางครั้งถึง 200 ฟุต ระยะเวลาระเบิดคือ 40 – 120 นาที และ Fountain Paint Pot บริเวณอุดมไปด้วยบ่อโคลนเดือด , บ่อน้ำร้อน , บ่อน้ำพุร้อน สามารถเดินชมได้อย่างใกล้ชิด ตามเส้นทางของอุทยาน โดยการเกิดบ่อน้ำร้อน , บ่อน้ำพุร้อน , บ่อโคลนเดือด , ไอน้ำร้อนเหล่านี้ เกิดจากน้ำใต้ดินซึ่งได้รับความร้อน ถูกดันขึ้นมาตามรอยแตกของพื้นโลก ถ้าจุดไหนน้ำขึ้นมาได้น้อย ก็จะมาผสมกับดินโคลนบนพื้นโลก จนกลายเป็นบ่อโคลนเดือดนั่นเอง
admin
September 19, 2018
New York City